สกุลเงินดิจิทัลและผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์ดั้งเดิม

สกุลเงินดิจิทัลและผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์ดั้งเดิม

ลองจินตนาการว่าคุณมีเงินอยู่ในมือ แต่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่สามารถใช้ซื้อกาแฟได้จริง! นั่นแหละคือสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) สกุลเงินดิจิทัลเป็นเงินเสมือนจริงที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อควบคุมการทำธุรกรรม ปลอดภัย ตรวจสอบได้ และไม่มีศูนย์กลางอย่างธนาคารกลาง

ตัวอย่างของสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม

หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกคือ Bitcoin (BTC) ซึ่งถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto ในปี 2009 Bitcoin ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นสกุลเงินที่ไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลหรือธนาคารกลาง และใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำธุรกรรม ทำให้การโอนเงินสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง การได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วของ Bitcoin ทำให้มันกลายเป็น “ทองคำดิจิทัล” และเป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดคริปโต

Ethereum (ETH) เป็นอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิทัลที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน มันถูกสร้างขึ้นในปี 2015 โดย Vitalik Buterin และมีคุณสมบัติที่แตกต่างจาก Bitcoin โดย Ethereum เน้นการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการพัฒนาและใช้งาน Smart Contracts ซึ่งเป็นสัญญาอัจฉริยะที่สามารถตั้งค่าและดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ Ethereum ยังเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับ Decentralized Finance (DeFi) และการสร้างโทเคนดิจิทัลอื่นๆ ที่ใช้ภายในระบบนิเวศของมัน

Ripple (XRP) คือสกุลเงินดิจิทัลที่เน้นการใช้ในการโอนเงินข้ามประเทศอย่างรวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ Ripple ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความช้าและค่าใช้จ่ายที่สูงในการโอนเงินระหว่างประเทศซึ่งระบบการโอนเงินดั้งเดิมไม่สามารถรองรับได้ XRP จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีของ RippleNet ซึ่งมีการสนับสนุนจากหลายสถาบันการเงินในระดับโลก

ในขณะที่ Litecoin (LTC) มักถูกเรียกว่า “Bitcoin เวอร์ชันที่เร็วกว่า” เนื่องจากมันมีการออกแบบให้สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า Litecoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2011 โดย Charlie Lee ซึ่งมีพื้นฐานการทำงานคล้ายกับ Bitcoin แต่สามารถประมวลผลธุรกรรมได้เร็วกว่าและใช้เวลาน้อยกว่าในการยืนยันทุกบล็อก นอกจากนี้ Litecoin ยังถือว่าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้ในการทดลองและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ก่อนที่จะนำมาใช้ในระบบของ Bitcoin

ตลาดฟอเร็กซ์ดั้งเดิมคืออะไร?

ประเภทผู้เล่น การเข้าร่วมตลาด การทำธุรกรรม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ช่วงเวลาเปิดทำการ
ธนาคารกลาง ควบคุมและจัดการสกุลเงิน การซื้อขายสกุลเงินสำรอง กระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน 24 ชั่วโมง, 5 วันต่อสัปดาห์
ธนาคารพาณิชย์ ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป การแลกเปลี่ยนเงินตราในประเทศ กระทบการเคลื่อนไหวของตลาด 24 ชั่วโมง, 5 วันต่อสัปดาห์
นักเก็งกำไร ซื้อขายเพื่อหากำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคา ใช้กลยุทธ์ทางเทคนิคในการทำนายราคา กระทบความผันผวนของราคา 24 ชั่วโมง, 5 วันต่อสัปดาห์
บริษัทและองค์กร ใช้ในการแลกเปลี่ยนเพื่อการค้าระหว่างประเทศ โอนเงินเพื่อการค้าและการลงทุน กระทบการไหลของเงินทุน 24 ชั่วโมง, 5 วันต่อสัปดาห์
นักลงทุนรายย่อย เข้าร่วมผ่านโบรกเกอร์ การซื้อขายสกุลเงินในตลาดรอง มีผลต่อสภาพคล่องในตลาด 24 ชั่วโมง, 5 วันต่อสัปดาห์

เมื่อสกุลเงินดิจิทัลเดินเข้ามาในสนามฟอเร็กซ์

ใครจะไปคิดล่ะว่า “เงินดิจิทัล” ที่ไม่มีธนาคารรองรับจะกลายเป็นคู่แข่งของตลาดฟอเร็กซ์ได้? แต่ในปัจจุบัน สกุลเงินดิจิทัลเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดการเงินโลกและสามารถแข่งขันกับสกุลเงินที่ใช้อยู่ในตลาดฟอเร็กซ์แบบดั้งเดิมได้ นี่คือเหตุผลบางประการที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลเริ่มมีบทบาทในสนามฟอเร็กซ์:

  • การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดสกุลเงินดิจิทัล
    • สกุลเงินดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Bitcoin และ Ethereum ที่มีมูลค่าตลาดสูงขึ้นทุกปี การเติบโตนี้ทำให้สกุลเงินดิจิทัลเริ่มมีอิทธิพลในตลาดการเงินทั่วโลก
  • ข้อได้เปรียบในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
    • การโอนเงินระหว่างประเทศผ่านฟอเร็กซ์นั้นมักจะใช้เวลาและมีค่าธรรมเนียมสูง แต่สกุลเงินดิจิทัลสามารถทำธุรกรรมข้ามประเทศได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีและมีค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญที่ทำให้มันเริ่มเป็นที่นิยม
  • ความโปร่งใสและความปลอดภัยของบล็อกเชน
    • สกุลเงินดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนช่วยให้ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้และปลอดภัยจากการถูกแฮ็กหรือการทุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดฟอเร็กซ์บางครั้งไม่สามารถให้ได้
  • ความไม่ขึ้นกับธนาคารกลาง
    • สกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางหรือรัฐบาลใดๆ ซึ่งทำให้มันสามารถทำงานได้อย่างอิสระและไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากฟอเร็กซ์ที่มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน
  • การใช้สกุลเงินดิจิทัลในตลาดการลงทุนและการเก็งกำไร
    • นักลงทุนเริ่มใช้สกุลเงินดิจิทัลในการเก็งกำไร โดยบางคนมองว่า Bitcoin หรือ Ethereum เป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงในระยะสั้น ซึ่งต่างจากการลงทุนในฟอเร็กซ์ที่อาจมีความเสี่ยงสูงในการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
  • การเปิดตัวของแพลตฟอร์มการเทรด Crypto
    • แพลตฟอร์มการเทรดสกุลเงินดิจิทัลเช่น Binance, Coinbase, และ Kraken ได้รับความนิยมและมีฟังก์ชันที่ช่วยให้การเทรดเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาด Crypto ได้ง่ายขึ้น
  • การผสมผสานระหว่างฟอเร็กซ์และสกุลเงินดิจิทัล
    • โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หลายรายเริ่มนำสกุลเงินดิจิทัลมาให้เทรดในแพลตฟอร์มของตน ทำให้การแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินดั้งเดิมสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสร้างโอกาสให้ผู้ค้าในตลาดฟอเร็กซ์สามารถขยายพอร์ตการลงทุนได้
  • ผลกระทบของการผันผวนของสกุลเงินดิจิทัล
    • สกุลเงินดิจิทัลมักมีความผันผวนสูง การเปลี่ยนแปลงราคาที่รวดเร็วทำให้ตลาดฟอเร็กซ์ต้องรับมือกับการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในตลาด Crypto ที่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจทางการเงินและกลยุทธ์การลงทุน

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองโลกนี้ชนกัน

เมื่อสกุลเงินดิจิทัลเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดการเงิน โลกของฟอเร็กซ์และคริปโตจึงเริ่มชนกันอย่างชัดเจน ในช่วงแรก นักลงทุนที่เคยเทรดฟอเร็กซ์อาจยังไม่เข้าใจหรือไม่มั่นใจในความสามารถของสกุลเงินดิจิทัล แต่เมื่อเห็นผลตอบแทนที่สูงขึ้นและความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามประเทศ นักลงทุนบางส่วนเริ่มหันมาสนใจการเทรด Crypto แทนที่จะใช้ฟอเร็กซ์ในบางจุด โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในบางช่วงเวลา

ความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าสูงทำให้มันกลายเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการวางแผนกลยุทธ์ในตลาดฟอเร็กซ์ สกุลเงินดิจิทัลมักจะมีความผันผวนสูงกว่า ฟอเร็กซ์ ซึ่งหมายความว่าในการเทรดฟอเร็กซ์ นักลงทุนต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นจากตลาดคริปโต นอกจากนี้ ข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญในตลาด Crypto อาจส่งผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์ เช่น การประกาศของรัฐบาลเกี่ยวกับการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถกระทบต่อความมั่นคงของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดฟอเร็กซ์

โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หลายรายเริ่มเปิดให้บริการการเทรดสกุลเงินดิจิทัลร่วมกับการซื้อขายฟอเร็กซ์แบบดั้งเดิม นี่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการมีทางเลือกหลากหลายในการลงทุน บางโบรกเกอร์เสนอการเทรดในสกุลเงินดิจิทัลภายในแพลตฟอร์มเดียวกันกับฟอเร็กซ์ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกสินทรัพย์ในการลงทุนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าใจและการจัดการการลงทุนในทั้งสองตลาดนี้ให้กับนักลงทุนที่ไม่ชำนาญในสกุลเงินดิจิทัล

การที่ทั้งสองโลกนี้เริ่มเข้ามาผสมผสานกันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิธีที่ผู้ลงทุนเข้าถึงและวิเคราะห์ตลาด ฟอเร็กซ์ที่เคยเป็นตลาดที่มีความเสถียรในระยะยาวต้องปรับตัวให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของตลาด Crypto ที่มีความเร็วและความผันผวนสูงขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่นักลงทุนต้องรับมือ ซึ่งจะมีผลต่อการสร้างกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการลงทุนในตลาดการเงินในอนาคต

ความแตกต่างระหว่าง Forex และ Crypto

คุณสมบัติ ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) สกุลเงินดิจิทัล (Crypto) คำอธิบายเพิ่มเติม ตัวอย่าง
เวลาซื้อขาย 24 ชั่วโมง / 5 วัน 24/7 ไม่มีวันหยุด ตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ แต่สกุลเงินดิจิทัลสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน รวมถึงวันเสาร์และอาทิตย์ ฟอเร็กซ์: ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ, คริปโต: Bitcoin
ความผันผวน ค่อนข้างต่ำ สูงมาก ตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนที่ต่ำกว่าและมักเคลื่อนไหวอย่างคงที่กว่า ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลมักมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงในระยะสั้น ฟอเร็กซ์: EUR/USD, คริปโต: Bitcoin
สภาพคล่อง สูงมาก ปานกลางถึงสูง ตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องสูงมาก เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายที่สูงในทุกๆ วัน แต่สกุลเงินดิจิทัลมีสภาพคล่องที่ต่ำกว่าในบางช่วงเวลา ฟอเร็กซ์: USD, EUR, คริปโต: Ethereum, Litecoin
การควบคุม อยู่ภายใต้รัฐบาล ไม่มีศูนย์กลางควบคุม ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับการควบคุมจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น ธนาคารกลางหรือหน่วยงานกำกับดูแล ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล ฟอเร็กซ์: US Dollar, คริปโต: Bitcoin, Ethereum
ความปลอดภัย พึ่งพาโบรกเกอร์ ขึ้นอยู่กับบล็อกเชน ความปลอดภัยในฟอเร็กซ์ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่ผู้ลงทุนเลือกใช้บริการ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลมีความปลอดภัยสูงจากเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ตรวจสอบทุกธุรกรรม ฟอเร็กซ์: Broker, คริปโต: Blockchain (Bitcoin)

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้เล่นในตลาด

  • นักลงทุนรายย่อย: โอกาสใหม่หรือกับดัก?
    สกุลเงินดิจิทัลเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดการเงินได้ง่ายขึ้น เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถเริ่มเทรดได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือโบรกเกอร์ใหญ่ๆ เหมือนในตลาดฟอเร็กซ์ แต่ความผันผวนสูงของราคาสกุลเงินดิจิทัลอาจทำให้การลงทุนกลายเป็นกับดักได้ นักลงทุนที่ไม่มีความรู้หรือการวางแผนที่ดีอาจเสี่ยงสูญเสียเงินทุนจากความผันผวนของตลาดคริปโตที่ไม่คาดคิด การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลจึงเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
  • โบรกเกอร์ Forex: ปรับตัวหรือพัง?
    เมื่อสกุลเงินดิจิทัลเริ่มได้รับความนิยม โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หลายรายจึงต้องปรับตัวเพื่อไม่ให้หลุดจากกระแสการเทรดที่มีการเติบโตสูงนี้ โดยบางโบรกเกอร์เริ่มเพิ่มคู่สกุลเงินดิจิทัลเข้ามาให้ผู้เทรดเลือกใช้ในการลงทุน เช่น Bitcoin, Ethereum, หรือ Ripple เป็นต้น นอกจากนี้ บางโบรกเกอร์ยังเปิดแพลตฟอร์มการเทรดสกุลเงินดิจิทัลแยกออกมาโดยเฉพาะ เพื่อดึงดูดลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในยุคดิจิทัล หากโบรกเกอร์ไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้ อาจทำให้เสียโอกาสในการแข่งขันในตลาดที่กำลังเติบโต
  • ธนาคารกลาง: มอง Crypto เป็นภัยหรือโอกาส?
    สำหรับธนาคารกลางในหลายประเทศ สกุลเงินดิจิทัลถือเป็นทั้งภัยและโอกาสในเวลาเดียวกัน ในขณะที่บางประเทศมองว่า Cryptocurrency อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางการเงิน เนื่องจากการขาดการควบคุมจากรัฐบาล ทำให้ธนาคารกลางต้องออกกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ เพื่อควบคุมการใช้สกุลเงินดิจิทัลในประเทศของตน ในขณะเดียวกัน บางประเทศเริ่มหันมามองสกุลเงินดิจิทัลเป็นโอกาสในการพัฒนาและเพิ่มความคล่องตัวให้กับเศรษฐกิจ ด้วยการพัฒนา CBDC (Central Bank Digital Currency) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง เช่น ประเทศจีนที่ได้พัฒนา “หยวนดิจิทัล” ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมและลดความเสี่ยงจากการฟอกเงิน
  • บริษัทใหญ่และธนาคารพาณิชย์: ขึ้นอยู่กับการปรับตัว
    สำหรับบริษัทและธนาคารพาณิชย์ในหลายประเทศ การเข้ามาของสกุลเงินดิจิทัลสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับพวกเขา บางธนาคารเริ่มเปิดรับการใช้บริการบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในการทำธุรกรรม เช่น การใช้ Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อทำการโอนเงินข้ามประเทศ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการทำธุรกรรม แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ และการปรับตัวในเรื่องของความปลอดภัยและการควบคุม
  • รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล: สร้างกรอบกฎหมายที่เหมาะสม
    การขยายตัวของสกุลเงินดิจิทัลทำให้รัฐบาลในหลายประเทศต้องพิจารณาและสร้างกรอบกฎหมายที่เหมาะสมเพื่อควบคุมการใช้ Cryptocurrency อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟอกเงินหรือการใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย แต่การออกกฎหมายเหล่านี้มักต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้ขัดขวางนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีบล็อกเชน

Crypto ดึงดูดใจนักลงทุนยุคใหม่ยังไงบ้าง?

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลหรือ Crypto ดึงดูดใจนักลงทุนยุคใหม่คือ ความโปร่งใส ที่มาจากการทำธุรกรรมที่บันทึกไว้ในบล็อกเชน ทุกการโอนเงินและการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจะถูกบันทึกลงในบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลที่ไม่มีใครสามารถแก้ไขหรือทำลายได้ ส่งผลให้ข้อมูลทุกอย่างมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นมีความถูกต้องและชัดเจน นอกจากนี้ การที่บล็อกเชนไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงหลังจากบันทึกข้อมูลแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการทุจริตและการโกงได้อีกด้วย

อีกหนึ่งจุดเด่นของสกุลเงินดิจิทัลคือ ความไร้พรมแดน ที่ทำให้ผู้คนสามารถส่งเงินข้ามประเทศได้ภายในไม่กี่นาที การทำธุรกรรมในสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้ถูกจำกัดโดยระบบธนาคารหรือขอบเขตของประเทศใดๆ ผู้ลงทุนสามารถส่งเงินไปยังที่ใดก็ได้ในโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำและรวดเร็วมาก การส่งเงินผ่านธนาคารปกติมักใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายที่สูง เช่น การโอนเงินข้ามประเทศ แต่การใช้สกุลเงินดิจิทัลช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมสูงๆ ได้ ทำให้ผู้คนสามารถส่งเงินไปยังครอบครัวหรือธุรกิจต่างประเทศได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ

ต้นทุนน้อย ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลได้รับความนิยม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม เช่น ธนาคาร การทำธุรกรรมผ่านธนาคารมักจะมีค่าธรรมเนียมที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินระหว่างธนาคาร หรือค่าบริการในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ แต่การใช้สกุลเงินดิจิทัลกลับมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ามาก การเทรดคริปโตในตลาดแลกเปลี่ยนหรือการส่งเงินไปยังประเทศอื่นๆ มักจะมีค่าธรรมเนียมเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าของธุรกรรม ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บริการของธนาคาร

นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดิจิทัลสามารถทำธุรกรรมได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงและไม่มีวันหยุด ทำให้มันเป็นทางเลือกที่สะดวกและยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วและความคล่องตัวในการทำธุรกรรม การที่การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทำให้ไม่จำเป็นต้องรอเวลาทำการของธนาคารหรือการตลาดที่ปิดในบางช่วงเวลา ดังนั้น นักลงทุนที่มองหาโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินดิจิทัลจึงสามารถเข้าเทรดได้ตลอดเวลา ซึ่งตรงกับวิถีชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งของคนยุคใหม่

นี่คือตารางที่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ กลยุทธ์ที่นักเทรด Forex เริ่มปรับใช้หลังเจอ Crypto

กลยุทธ์ที่นักเทรด Forex เริ่มปรับใช้หลังเจอ Crypto กลยุทธ์ รายละเอียด ผลประโยชน์ ตัวอย่างการใช้
กระจายพอร์ตไม่เล่นแค่สกุลเงินหลัก (USD, EUR, JPY) แต่หันมาเก็งกำไรในBTC หรือ ETH ด้วย การกระจายพอร์ตให้หลากหลายขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร นักเทรดเริ่มมองหากำไรจากสินทรัพย์อื่นๆ ไม่ใช่แค่สกุลเงินหลัก (USD, EUR, JPY) แต่ยังรวมถึงสกุลเงินดิจิทัล เช่น BTC, ETH ที่มีความผันผวนสูง เพิ่มความหลากหลายให้กับการลงทุน และช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาสกุลเงินหลักเพียงอย่างเดียว การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนต่ำ
ใช้สัญญาณจากตลาดCrypto บางเทรดเดอร์เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของBitcoin บางครั้งสามารถเป็น “ตัวบอกสัญญาณ”ล่วงหน้าสำหรับตลาดอื่น การใช้การเคลื่อนไหวของ Bitcoin เพื่อทำนายทิศทางตลาดอื่น ๆ บางเทรดเดอร์สังเกตว่า การเคลื่อนไหวของ Bitcoin อาจส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดฟอเร็กซ์ และสามารถใช้เป็นสัญญาณล่วงหน้าสำหรับการคาดการณ์ทิศทางตลาดอื่น สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโต และทำนายการเคลื่อนไหวของตลาดฟอเร็กซ์ได้แม่นยำขึ้น การใช้กราฟและเทคนิคการวิเคราะห์ที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของ Bitcoin เพื่อคาดการณ์ทิศทางของคู่สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์ เช่น EUR/USD

ความเสี่ยงที่ตามมาแบบเงียบๆ

เหมือนรถสปอร์ตแรงแต่เบรกไม่ดี — นี่แหละคือสกุลเงินดิจิทัลที่ทั้งมีศักยภาพในการทำกำไรสูง แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นี่คือลิสต์ของความเสี่ยงที่นักลงทุนควรระมัดระวัง:

  • ราคาพุ่งแรง/ร่วงแรง:
    การเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินดิจิทัลสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแรงมาก เช่นเดียวกับ Bitcoin ที่สามารถร่วง 30% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วขนาดนี้สามารถทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาอันสั้น
  • ข่าวลือสร้างความปั่นป่วน:
    ข้อความหรือข่าวลือที่ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียหรือทวีตจากบุคคลที่มีอิทธิพล (เช่น Elon Musk) สามารถทำให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเกิดความผันผวนได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น เมื่อ Elon Musk ทวีตเกี่ยวกับ Dogecoin หรือ Bitcoin การเคลื่อนไหวของราคาสามารถทำให้ตลาดสะเทือนและเกิดการเปลี่ยนแปลงในราคาของเหรียญดิจิทัลทันที
  • ระบบยังใหม่:
    การใช้แพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลบางแห่งยังคงเป็นระบบใหม่ที่ยังไม่ได้พัฒนาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งบางครั้งอาจเกิดปัญหาทางเทคนิคได้ เช่น แพลตฟอร์มล่มเมื่อมีผู้ใช้งานจำนวนมาก หรือระบบไม่เสถียร ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถทำธุรกรรมหรือสั่งซื้อ/ขายสกุลเงินได้ในช่วงเวลาที่ต้องการ
  • ความไม่เสถียรของตลาด:
    ตลาดสกุลเงินดิจิทัลเป็นตลาดที่ยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างเต็มที่จากรัฐบาลหรือหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงจากการตกเป็นเป้าหมายของการโกงหรือการทุจริตได้ง่ายขึ้น ผู้ลงทุนต้องระมัดระวังในการเลือกแพลตฟอร์มและโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ
  • ความเสี่ยงจากการแฮ็ก:
    การแฮ็กระบบของกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลสามารถทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินได้ในทันที ในบางกรณีมีเหตุการณ์แฮ็กที่ทำให้เงินดิจิทัลหายไปจากระบบซึ่งยากต่อการเรียกคืน
  • ความไม่เข้าใจในเทคโนโลยี:
    นักลงทุนบางรายอาจไม่มีความรู้หรือความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างและทำงานของสกุลเงินดิจิทัล เช่น บล็อกเชน การเข้าใจวิธีการทำงานของเทคโนโลยีนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการลงทุน
  • ความเสี่ยงจากการกระทำของรัฐบาล:
    บางประเทศอาจมีการออกกฎหมายควบคุมหรือห้ามใช้สกุลเงินดิจิทัลในประเทศของตน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาและความสามารถในการลงทุนของผู้ลงทุนในประเทศนั้น ๆ

ผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาด Forex

การเข้ามาของสกุลเงินดิจิทัลในตลาดการเงินโลกอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องในตลาด Forex ในบางช่วงเวลาที่นักลงทุนจำนวนมากหันไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ซึ่งมีความผันผวนสูงและให้โอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้การซื้อขายในตลาด Forex ลดลงในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคริปโตดึงดูดความสนใจของนักลงทุนจำนวนมาก

ในขณะที่ตลาด Forex ยังมีสภาพคล่องที่สูงและการซื้อขายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีนักลงทุนจำนวนมากหันไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล มันอาจทำให้มีการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงไปจากการซื้อขายใน Forex ไปยังตลาดคริปโต ซึ่งอาจทำให้การทำธุรกรรมในตลาด Forex ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในบางช่วงเวลา นักลงทุนที่เคยมองว่าตลาด Forex เป็นทางเลือกหลักในการลงทุนอาจเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการลงทุนในตลาดนี้ เพื่อหากำไรจากการเทรดในสกุลเงินดิจิทัลแทน

สิ่งนี้อาจสร้างผลกระทบต่อผู้เล่นในตลาด Forex โดยเฉพาะโบรกเกอร์และธนาคารที่พึ่งพาการทำธุรกรรมในตลาด Forex เพื่อสร้างรายได้ หากสภาพคล่องในตลาดลดลง ก็อาจส่งผลให้ธุรกิจเหล่านี้ต้องปรับตัวหรือปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ความผันผวนในตลาดคริปโตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอาจทำให้บางกลุ่มนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและตัดสินใจถอนเงินจากตลาด Forex ไปยังตลาดคริปโตที่มีโอกาสทำกำไรสูงกว่า

การสูญเสียสภาพคล่องในตลาด Forex อาจเป็นปัญหาที่นักลงทุนต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงและดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ต้องผ่านการควบคุมจากรัฐบาลหรือธนาคารกลาง ยังเพิ่มความท้าทายให้กับตลาด Forex ที่ต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *